กิลามุบารัก (
อักษรโรมัน: Qila Mubarak) เป็นป้อมปราการ สร้างด้วย
สถาปัตยกรรมซิกข์ ตั้งอยู่ใน
ปฏิอาลา รัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย[1]กิลามุบารักสร้างขึ้นแรกเริ่มเป็นป้อมปราการดินเหนียว (Mud fortress) โดยผู้นำ
สิธูชัต บาบา อะลา สิงห์ ผู้สถาปนาจักรวรรดิปฏิอาลา และสร้างป้อมปราการนี้ขึ้นในปี 1763
[2] ต่อมาได้มีการก่อสร้างป้อมปราการขึ้นใหม่โดยใช้อิฐดินเผา ว่ากันว่าป้อมปราการที่สร้างขึ้นในปี 1763 เป็นการสร้างต่อขยายบนรากฐานเดิมของป้อมปราการจาก
จักรวรรดิโมกุลที่สร้างขึ้นโดยผู้ครองแคว้นปฏิอาลา ฮุสเซน ข่าน (Hussain Khan) ส่วนภายในของกิลามุบารักที่ชื่อ กิลาอันดรูน (Qila Androon) สร้างขึ้นโดย
มหาราชา อาเมร์ สิงห์[3] ห้องดังกล่าวประกอบด้วยโถง 13 ห้องซึ่งเขียนเล่าเรื่องราวจาก
ปรัมปราวิทยาฮินดูด้วยศิลปกรรมแบบปฏิอาลา
[4]กิลามุบารักใช้งานเป็นที่พำนักของ
ราชวงศ์ปฏิอาลา ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 10-เอเคอร์ (40,000-ตารางเมตร) ในใจกลางเมือง ภายในประกอบด้วย รันบาส (Ran Baas;
เกสต์เฮาส์) และ โถงดาร์บาร์ หรือ ดีวันคานา (Darbar Hall; Divan Khana)
[5] และห้อง กีลาอานดรูน (Qila Androon) ซึ่งประดับด้วยจิตรกรรมฝาผนังแบบปฏิอาลา ภายในของกิลามุบารักยังมีระบบท่อขับถ่ายของเสียอยู่ใต้ดิน
[6] โถงดาร์บาร์ในปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องยุทธ์และโคมระย้า (Museum of Armoury & Chandelier) ภายในจัดแสดง
ปืนใหญ่,
ดาบ, โล่กับ
คฑา และสมบัติสำคัญ เช่น
มีดสั้นของ
คุรุโควินทสิงห์ และดาบของ
นาดีร์ ชาห์[7]กิลามุบารักมีอายุมากกว่า 300 ปี
[8] และเคยถูกบรรยายว่าอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรม
[9] และมีความเสียหายอย่างหนัก
[10] และยังได้รับการขึ้นชื่อโดย
กองทุนอนุสรณ์โลกให้เป็นหนึ่งใน 100 "อนุสรณ์เสี่ยงอันตราย" ที่สุดของโลกใน
รายงานปี 2004[8] ท้ายที่สุดจึงมีโครงการการบูรณะกิลามุบารักภายใต้กองทุน
อินตัช ซึ่งสนับสนุนโดยรัฐบาลรัฐและรัฐบาลกลางอินเดีย
[11] และได้รับการดูแลโดย
กรมสำรวจโบราณคดีอินเดีย[12] และมีเงินทุนสนับสนุนจาก
กองทุนอนุสรณ์โลก[13][14][15]